Google
 

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"ไทรอัมพ์"อัดอีเวนต์หนี"ซาบีน่า" ตลาดชุดชั้นในร้อนฉ่า2ค่ายแข่งตัดราคา

ThaiPost เศรษฐกิจ 20 มีนาคม 2552

สงครามชุดชั้นในสุดร้อนแรง "ไทรอัมพ์" อัดเงิน 50 ล้าน ลุยอีเวนต์อัดโปรโมชั่นจับพรีเมี่ยม ขณะที่คู่แข่ง "วาโก้-ซาบีน่า" แห่ตัดราคาหนีตายส่งออก คาดสิ้นปีดันยอดขาย 10% หลังปีก่อนเจอปัจจัยลบฉุดหนัก

นายจักร เฉลิมชัย ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท ไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจชุดชั้นใน "ไทรอัมพ์" เปิดเผยว่า ภาพรวมแข่งขันของธุรกิจชุดชั้นในปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้เล่นรายหลักอย่างวาโก้และซาบีน่าหันมารุกทำตลาดในประเทศมากขึ้น ภายหลังมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้ต้องชะลอแผนการทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งกลยุทธ์หลักของคู่แข่งยังเน้นการลดราคา แต่บริษัทไม่มีแผนใช้กลยุทธ์ดังกล่าว เนื่องจากเน้นเจาะตลาดระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายของคู่แข่งที่เจาะกลุ่มแมสหรือระดับกลางเป็นหลัก

สำหรับกลยุทธ์ราคาสินค้านั้น ไทรอัมพ์เคยลดราคาสูงสุดไม่เกิน 20% ขณะที่คู่แข่งมีสัดส่วนลดราคาสูงกว่านั้น เนื่องจากบริษัทเน้นกลยุทธ์การทำกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นสินค้ามากกว่าการลดราคา เพื่อไม่ให้เสียตำแหน่งทางการตลาด โดยปีนี้เตรียมงบประมาณ 50 ล้านบาท ทำการตลาดรูปแบบดังกล่าวและเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องเฉลี่ยเดือนละ 3 รูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปและต้องการความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2552 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่ปีก่อนมีรายได้เติบโตค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้น ประกอบกับสินค้าไม่เพียงพอต่อการทำตลาด เนื่องจากมีการประท้วงในกลุ่มพนักงาน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว

"เศรษฐกิจตอนนี้ค่อนข้างแย่ แต่เราเป็นบริษัทต่างประเทศที่มีเงินทุนค่อนข้างหนา จึงไม่ค่อยกังวลกับปัจจัยลบมากนัก และยังมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ขณะที่คนส่วนใหญ่จะชะลอการลงทุนและการที่เราออกสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาแพงกว่าคู่แข่ง 20% เราก็มั่นใจว่าจะได้รับผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เพราะสินค้าเรามีคุณภาพดี" นายจักรกล่าว
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในซาบีน่า กล่าวว่า ตลาดชุดชั้นในปีนี้แข่งขันกันรุนแรงต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโลคอลแบรนด์อินเตอร์แบรนด์หรือแบรนด์ระดับล่าง ทั้งการทำโปรโมชั่นและการลดราคา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดหดตัว ซึ่งคาดว่าตลาดรวมในไทยน่าจะเติบโตไม่เกิน 5% จากมูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท

"ซาบีน่าก็ต้องทำตลาดต่อเนื่องและปรับแผนตลาดบ่อยขึ้นเป็นรายไตรมาส แต่เรายังดีที่ปรับตัวมาตั้งแต่ปี 2548 โดยปรับยุทธศาสตร์หลักหันมามุ่งตลาดในประเทศมากขึ้นเป็น 60% ส่วนรายได้จากการรับจ้างผลิตส่งต่างประเทศเหลือ 40% จากเดิมในประเทศ 40% และตลาดโออีเอ็มส่งออก 60% และตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนในประเทศมากขึ้นเป็น 70% ภายในอีก 3 ปี โดยปีนี้เพิ่มงบการตลาดเป็น 50 ล้านบาท จากปีก่อน 30 ล้านบาท และขยายช็อป 5 สาขา 10-15 ล้านบาท จากปัจจุบันมีช็อปซาบีน่ารวม 7 สาขา และเคาน์เตอร์มากกว่า 380 แห่งทั่วประเทศ" นายบุญชัยกล่าว

ปัจจุบันซาบีน่าอยู่ในอันดับสองใกล้เคียงกับไทรอัมพ์ ส่วนผู้นำตลาดยังเป็นวาโก้.

ที่มา http://www.thaipost.net/news/200309/2047